

Bank of America Merrill Lynch
BAML มองว่า S&P500 จะขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 3000 หรือมากกว่าเล็กน้อยก่อนที่จะลงมาจบที่เป้าคาดการณ์ที่ 2900 โดยให้น้ำหนักกับกลุ่ม Healthcare, Technology, Utilities, Financials and Industrials และ ลดน้ำหนักในกลุ่ม Consumer Discretionary, Communication Services และ Real Estate.
การเติบโต Real GDP ในประเทศเช่นสหรัฐและจีนจะช้าลง เศรษฐกิจจะชะลอตัวในเขตเศรษฐกิจหลักๆ เคาคาดว่าญี่ปุ่นและยุโรปจะเติบโตที่ 1.4% ส่วนในตลาดเกิดใหม่จะเติบโตโดยรวมที่ 4.6%

BARCLAYS
BARCLAYS มองว่า S&P500 จะขึ้นถึงจุดสูงสุดที่ 3000 หรือมากกว่าเล็กน้อยก่อนที่จะลงมาจบที่เป้าคาดการณ์ที่ 2900 โดยให้น้ำหนักกับกลุ่ม Healthcare, Technology, Utilities, Financials and Industrials และ ลดน้ำหนักในกลุ่ม Consumer Discretionary, Communication Services และ Real Estate.
การเติบโต Real GDP ในประเทศเช่นสหรัฐและจีนจะช้าลง เศรษฐกิจจะชะลอตัวในเขตเศรษฐกิจหลักๆ BARCLAYSคาดญี่ปุ่นและยุโรปจะเติบโตที่ 1.4% ส่วนในตลาดเกิดใหม่จะเติบโตโดยรวมที่ 4.6%

BLACKROCK
BLACKROCK แนะหลีกเลี่ยงพื้นที่ทีมี่ Upside ต่ำแต่มี Downside Risk สูงอย่างเช่น ตลาดยุโรป
ตลาดจะอ่อนไหวเนื่องจากความกลัวว่าเศรษฐกิจจะเป็นขาลง แต่ยังมองว่าเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐจะยังไม่เกิดขึ้นในปีนี้ ในระยะกลางมีความกังวลเกี่ยวกับภาวะทางการเมืองของยุโรป

BNP PARIBAS
ในมุมมองตลาดสหรัฐหุ้น BNP PARIBAS มองว่าควรให้น้ำหนักกับการเติบโตที่ช้าลง,การลดลงของกำไร,และรายได้ที่ลดลงมากกว่าการเพิ่มขึ้นของดอกเบี้ย นอกจากนั้น Valuationที่สูงยังเป็นอีกหนึ่งความท้าทายของตลาดหุ้นสหรัฐในปีนี้ ผนวกกับที่เทรนด์ขาขึ้นได้จบลงแล้ว เราอาจจะได้เห็น performance ที่ดีขึ้นของทางฝั่งยุโรป
สหรัฐจะเติบโตช้าลงและนโยบายการเงินจะเป็นแบบหดตัว ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจกหลักๆจะเติบโตช้าลง

BROOKS MACDONALD
BM ต้องการสินทรัพย์ที่เติบโตโดยเฉพาะในกลุ่มที่ ได้ผลประโยชน์จาก Technology และ Healthcare มากกว่าการเน้นคุณค่า

CREDIT SUISSE
CREDIT SUISSE มองว่าในปีนี้การให้น้ำหนักกับตลาดหุ้นเยอะๆยังไปได้อยู่โดยกลุ่มหุ้นเติบโตจะยังคง Outperform ต่อไป ในกลุ่มTechnology และ Healthcare เป็นได้ทั้งตัวผลักดันหลักและความเสี่ยง โดยเราเห็นว่าคำถามที่สำคัญก็คือ กลุ่ม Technology จะยังคงแข็งแกร่งอยู่รึเปล่าเมื่อไปโฟกัสกับเทคโนโลยีใหม่ๆเช่น Virtual Reality และ Artificial Intelligence ทางด้านกลุ่ม Healthcare นักลงทุนควรจับตาดูนวัตกรรมใหม่ๆในกลุ่มนี้ให้ดี
ความกดดันจากสงครามการค้าจะยังคงอยู่ แต่ถ้าผู้กำหนดนโยบายของจีนมีความระมัดระวังเหมือนปีที่ผ่านมา ก็จะช่วยลดความไม่เสถียรลงได้

GOLDMAN SACHS
GS มองว่า Corporate จะเป็นกำลังหลักในการซื้อหุ้นที่ใหญ่ที่สุดในปีนี้ รวมถึงนักลงทุนต่างชาติ เนื่องจากการอ่อนตัวลงของค่าเงินดอลลาร์ โดยผู้ขายหลักจะเป็นกลุ่มกองทุนและรายย่อยซึ่งคาดว่าจะมีการขายเยอะในช่วงที่มีกาดขึ้นดอกเบี้ยเพื่อชะลอเศรษฐกิจ

JEFFERIES
JEFFERIESคาดว่าดัชนี S&P500 จะขึ้นไปถึง 2900 โดยมีปัจจัยด้านบวกคือดอลลาร์ที่อ่อนตัว, การหยุด Normalization ของเฟดและการขึ้นดอกเบี้ยที่ช้าลงในปีนี้ ส่วนทางด้านปัจจัยลบที่จะส่งผลต่อเป้าของเรานั้นมาจากการปรับตัวขึ้นของ U.S yield curve จากแรงกดดันของเงินเฟ้อ

J.P. MORGAN
การเติบโตของรายได้ของบริษัทจะช้าลงอย่างไรก็ตามการเติบโตจะยังคงเป็นบวก นักลงทุนอาจหาวิธีทำให้พอรต์หลากหลายมากขึ้นและลดความเสี่ยงโดยการถือหุ้นใหญ่ๆที่เป็นหุ้นแนวรับ
JPM คาดว่าการที่ตลาดสหรัฐจะ Outperform ตลาดอื่นเยอะๆจะจบลง บริษัททั่วโลกจะลดการลงทุนและการจ้างงาน

LOMBARD ODIER
แม้ว่ากลุ่มเทคโนโลยีจะมีรายได้ที่ดี Valuation ของหุ้นกลุ่มนี้ก็ยังคงลดลงมาก LBO คาดว่านักลงทุนจะกลับไปหาหุ้นแนวรับที่มีศักยภาพในการเติบโตด้วย

MORGAN STANLEY
ตลาดเกิดใหม่และญี่ปุ่นคือที่ที่ MORGAN STANLEY ต้องการจะไปลงทุน ส่วนตลาดหุ้นสหรัฐนั้นไม่น่าลงทุนที่สุด
MORGAN STANLEY มองว่าตลาดหมีในกลุ่มเศรษฐกิจเกิดใกล้จบลงแล้ว แต่ในสหรัฐตลาดหมีจะยังคงดำเนินต่อไป อย่างไรก็ตามในปีนี้เราคาดว่า การเติบโตจะช้าลง,เงินเฟ้อสูงขึ้นและนโยบายการเงินแบบหดตัว

RUSSELL INVESTMENTS
ตลาดหุ้นที่ผันผวนและให้ผลตอบแทนต่ำ RUSSELL แนะยุโรปและญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพกว่า ตลาดสหรัฐซึ่งมี valuation ที่แพง
นโยบายการเงินแบบหดตัวจากเฟด, สงครามการค้ากับจีนที่ไม่แน่นอน ปัญหาขาดดุลของ อิตาลี่กับBrexit ส่งผลให้ความผันผวนจะยังคงอยู่ในปีนี้ RUSSELL คาดว่าเศรษฐกิจถดถอยของสหรัฐจะมาถึงในปี 2020

UBS
UBS มีความเห็นว่าควรจะกระจายการลงทุนไปทั่วโลก ซึ่งจะช่วยลดความผันผวน ลงทุนในหุ้นแนวรับ ลองมองหุ้นในกลุ่มธนาคารของสหรัฐและจีนซึ่งเรามองว่าจะ outperform เนื่องจากการขึ้นดอกเบี้ยสำหรับสหรัฐ และการกระตุ้นเศรษฐกิจสำหรับจีน เราคาดว่าราคาน้ำมันจะปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงต้นปีนี้ ทำให้กลุ่มพลังงานของสหรัฐและยุโรปมีความน่าสนใจ

VANGUARD
VANGUARD มองว่าเศรษฐกิจถดถอยโลกจะยังไม่เกิดในปีนี้ ผลตอบแทนแบบปรับความเสี่ยงแล้ว ในหลายปีข้างหน้าจะอยู่แค่ระดับพอใช้เนื่องจากการเติบโตที่ลดลงและการขาดนโยบายที่สนับสนุนการเติบโต
ที่มา: BLOOMBERG
ข้อมูลหุ้น กองทุน บทความธุรกิจและการตลาดดีๆ
แอดไลน์กันไว้ จะได้ไม่พลาดโอกาส “เปลี่ยนชีวิต”
http://bit.ly/buffettcode