เรื่องจริงของ Jobs
อีกไม่ถึง 24 ชม. หนึ่งในมือถือที่มีคนรอมากที่สุดในโลกกำลังจะเปิดตัว iPhone X
แม้ปัจจุบันนี้ Jobs จะไม่อยู่แล้วแต่ตำนานของเขาซึ่งก็คือ iPhone ยังคงมีชีวิตต่อไป
ที่ iPhone ประสบความสำเร็จได้สูงขนาดนี้เพราะความอัจฉริยะของ Jobs นั่นเอง
แม้เขาจะเป็นอัจฉริยะแต่เขาก็ถูกมองว่าเป็นคนไม่ฟังใคร, เอาแต่ใจ และปากร้าย
ซึ่งนี่ก็เป็นสิ่งที่คนส่วนใหญ่คิดว่า Jobs เป็น
Ed Catmull ประธานบริษัท Pixar สตูดิโออนิเมชั่นชื่อดังซึ่ง Jobs ร่วมก่อตั้ง
Catmull ผู้ร่วมงานกับ Jobs อย่างใกล้ชิดมามากกว่า 26 ปีกลับบอกว่า Jobs ที่เขารู้จักไม่ใช่คนแบบที่ใครๆคิดว่าเขาเป็น “มันน่าหงุดหงิดมากที่หนังสือพวกนั้นเอาแต่พูดเรื่องแย่ๆของเขา”
Ed Catmull ยังบอกอีกว่า ในปัจจุบันคำว่า “อัจฉริยะ” ถูกใช้มากเกินไปจนเกร่อ แต่สำหรับ Steve ผมคิดว่าเขาคือคนที่คู่ควรกับคำๆนี้จริงๆ ตอนที่ผมรู้จักเขาครั้งแรก เขาเป็นคนห้วนๆไม่ใส่ใจและไม่ไว้หน้าใคร นี่คือเรื่องที่คนชอบเอาไปเขียน แต่มันมีหลายสิ่งที่พวกเขาพลาดไปซึ่งมันสำคัญกว่าการมาขยี้ข้อเสียของเขา ในช่วงที่ผมทำงานกับ Steve เขาไม่ใช่แค่ได้ประสบการณ์จากการทำให้ธุรกิจ 2 ธุรกิจจนประสบความสำเร็จ เขาฉลาดขึ้นมากเขารู้ว่าเมื่อไหร่เขาควรผ่อนปรนและเมื่อไหร่ที่ควรจะเคี่ยวเข็ญให้หนักโดยไม่ทำร้ายคนๆนั้นจนเสียความเป็นตัวเอง เขากลายเป็นคนที่ฉลาดขึ้นและมีเหตุมีผลมากขึ้น
ตอนที่เราออกแบบสำนักงานใหญ่ของ Pixar เขาอยากบังคับให้พนักงานทุกคนมีปฏิสัมพันธ์ที่ดีต่อกันด้วยการสร้างห้องนํ้าเพียงที่เดียว คนจะได้เจอกันทุกครั้งที่มาเข้าห้องนํ้า พนักงานไม่ยอมและลุกขึ้นมาต่อต้าน สุดท้าย Jobs ก็ยอมเปลี่ยนใจ
ตอนออกแบบสตูดิโอของ Pixar ก็เช่นกัน Jobs ต้องการให้แต่ละสตูดิโอแยกเป็นคนละตึก แต่หลังจากที่ Catmull พาเขาไปดูสตูดิโอของ Disney ซึ่งอยู่ในตึกเดียวทำให้พนักงานเจอกันและแชร์ไอเดียกับกันและกันง่ายขึ้น และ Jobs ก็เปลี่ยนใจ
สิ่งเหล่านี้พิสูจน์แล้วว่า Jobs ไม่ใช่คนหัวดื้อ เขาเป็นคนมีเหตุมีผลและพร้อมจะเปลี่ยนได้หากเหตุผลที่เสนอมันหนักแน่นพอ
Norman Foster สถาปนิกชื่อดังผู้ออกแบบ Apple Campus ได้เคยเล่าไว้ว่า Jobs ไม่ใช่คนที่ต้องการความสมบูรณ์แบบอย่างไร้เหตุผล เขาเป็นคนที่ศึกษามาอย่างหนักทำให้เขารู้ถึงข้อจำกัดต่างๆดีกว่าใคร ในตอนที่ออกแบบ Apple Campus Jobs รู้แม้กระทั่งว่าไม้ที่เขาต้องการใช้ในการทำผนังคือไม้ชนิดไหน, พันธุ์อะไร, ต้องตัดด้วยวิธีไหนและต้องโค่นในฤดูอะไรเพื่อให้ได้ไม้ที่ดีที่สุดสำหรับผนังของเขา ความรู้ที่ลึกขนาดนี้แม้แต่สถาปนิกมืออาชีพบางคนยังไม่รู้ด้วยซํ้าไป เวลาทำอะไร Jobs ทำอย่างเต็มที่เสมอ เขาขอให้ Norman Foster คิดกับเขาไม่ใช่ในฐานะลูกค้าแต่เป็นฐานะทีมงานคนหนึ่ง
Ed Catmull ทำงานกับ Jobs มาหลายสิบปี นานกว่าที่ใครจะเคยทำงานใกล้ชิด Jobs เขาเห็นจุดผกผันของชีวิต Jobs ซึ่งไม่เห็นจะมีอะไรเป็นเผด็จการของความสมบูรณ์แบบ แบบที่ในหนังสือ, นิตยสาร หรือแม้แต่หนังสือประวัติชีวิตของเขาเขียนเลย Steve ที่เป็นอัจฉริยะ,เผด็จการ,หยาบคาย,ไม่ฟังใครที่เขาเคยรู้จัก เปลี่ยนเป็นคนละคนในช่วง 20 ปีสุดท้ายของชีวิต หนังสือและนิตยสารเอาแต่ไปสัมภาษณ์คนที่รู้จัก Jobs ในช่วงต้นของชีวิตเขาโดยพลาดข้อมูลสำคัญในช่วงท้ายไป
สิ่งที่ทำให้ Steve Jobs ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งใหญ่ในช่วงสุดท้ายของชีวิต ไม่ใช่ความอัจฉริยะ, หยาบคาย, โหดร้าย หรือความเผด็จการ แต่เป็นความสำเร็จที่เขารู้จักเรียนรู้จากความผิดพลาดทั้งชีวิต ความผิดพลาดที่ทำให้เขากลายเป็นคนที่อยู่ในความทรงจำของคนทั้งโลกไปตลอดกาล……
