ซื้อไหมบริษัท Coca-Cola ในราคา 2 ล้านบาท?
ใครจะรู้ว่าธุรกิจยักษ์ใหญ่อย่าง Coca-Cola จะเคยขายที่ราคาแค่ 2,300 เหรียญ? ถ้าคิดเป็นเงินมูลค่าปัจจุบันปรับด้วยเงินเฟ้อแล้วจะมีค่าประมาณ 56,000 เหรียญหรือประมาณ 2 ล้านบาทไทยเท่านั้นเองถ้าใช้อัตราแลกเปลี่ยนปัจจุบันเป็นตัวประมาณ !!!
ปัจจุบัน Coca-Cola มีมูลค่ากิจการสูงถึง 6.6 ล้านล้านบาท กว่าจะเดินทางจากมูลค่า 2 ล้านบาทมาจนถึง 6.6 ล้านๆบาทเกิดอะไรขึ้นบ้าง? มาเริ่มด้วยกำเนิดของ Coca-Cola กันก่อน
ในปี 1886 ณ.ท่าเรือของเมือง New York ผู้คนกำลังยุ่งอยู่กับการสร้าง สัญลักษณ์ของอเมริกาซึ่งก็คือเทพีเสรีภาพ
ห่างจากที่นั่น 800 ไมล์ สัญลักษณ์ของอเมริกาอีกอันหนึ่งกำลังจะถูกสร้างขึ้น
เภสัชกรชื่อ John Pemberton กำลังทำการทดลองด้วยความตื่นเต้น
เขาใส่เครื่องหอม, สีคาราเมล และส่วนผสมอื่นๆ กลายเป็นเครื่องดื่มที่เขาตั้งชื่อว่า “Coca-Cola”
ในปีแรก Coca-Cola เริ่มขายที่ร้านขายยาของ Pemberton ในราคา 5 เซนต์ โดยขายได้วันละ 9 แก้วต่อวัน
ใครจะรู้ว่าอีก 100 กว่าปีถัดมา Coca-Cola จะขายได้มากกว่า 10 ล้านแกลลอน
หลังจากนั้นไม่นานนักธุรกิจ Atlanta ชื่อ Asa Candler ซื้อสิทธิ์ในการผลิต Coca-Cola ในราคา 2,300 เหรียญ
และนี่คือจุดเริ่มต้นความยิ่งใหญ่ของ Coca-Cola
Asa Candler เปลี่ยน Coca-Cola จากนวัตกรรมเครื่องดื่มให้กลายเป็นธุรกิจ
Candler รุกตลาดอย่างหนักด้วยการแจกคูปองชิมฟรี และเปลี่ยนรูปแบบของร้านขายยาที่ขาย Coca-Cola ให้มีนาฬิกา, โถ, ปฏิทิน, เครื่องชั่งที่มีสัญลักษณ์ของ Coca-Cola หลังจากนั้น 5 ปี Coca-Cola ขยายตัวอย่างรวดเร็วและมีโรงผลิตหัวเชื้อใน Chicago, Dallas และ Los Angeles
ด้วยความนิยมของ Coca-Cola ก็เริ่มเจอกับคู่แข่ง ในปี 1898 Pepsi ก็ถือกำเนิดขึ้นจากการคิดค้นของเภสัชกรชื่อ Caleb Bradham
ในปี 1899 นักกฏหมาย 2 คนคือ Benjamin Thomas และ Joseph Whitehead ซื้อสิทธิในการบรรจุโค๊กลงในขวดจาก Candler ในราคา 1 เหรียญ ที่ราคาถูกมากเพราะ Candler ไม่สนใจการบรรจุ Coke ลงขวดนักเพราะเขากลัวว่าจะทำให้คุณภาพลดลง Thomas และ Joseph คือผู้ที่ทำให้ Coca-Cola หลุดพ้นจากกรอบการขายในร้ายขายยาได้
จากการแข่งขันที่สูงขึ้นทำให้ Coca-Cola ต้องเริ่มสร้างจุดเด่นที่เป็นเอกลักษณ์ให้กับสินค้าของตนเองเพื่อให้ลูกค้าสามารถแยกแยะ Coca-Cola จาก Pepsi ได้ และนี่จึงเป็นต้นกำเนิดของขวด Coke ทรงโค้งๆเว้าๆที่เราเห็นกันในปัจจุบัน
ในปี 1900 Coca-Cola มีโรงบรรจุขวดอยู่ 2-3 โรงแต่ในปี 1920 Coca-Cola โตอย่างรวดเร็วมีโรงบรรจุขวดมากถึง 1,000 โรง
Asa Candler อาจจะเป็นคนทำให้ Coca-Cola โด่งดังในอเมริกา แต่คนที่ทำให้ Coca-Cola เติบโตไปทั่วโลกคือ Robert Woodruff
พ่อของ Woodruff ซื้อธุรกิจต่อจาก Candler และเขากลายเป็นประธานบริษัทของ Coca-Cola ใช้เวลา 60 ปีในการขยายธุรกิจของ Coca-Cola ไปทั่วโลก โดยมีเหตุการณ์ที่สำคัญคือการที่ Coca-Cola กลายเป็นสปอนเซอร์ของ USA ทีมในกีฬา Olympic
เหตุการณ์สำคัญอีกครั้งหนึ่งของ Coca-Cola คือสงครามโลกครั้งที่ 2
Coca-Cola ลดราคา Coke เหลือ 5 เซนต์ให้กับทุกๆคนที่ทำงานในกองทัพ เท่านั้นยังไม่พอในปี 1943 นายพล Eisenhower ได้ส่งสารถึง Coca-Cola ให้ไปตั้งโรงงานบรรจุ Coke 10 โรงในที่ๆทหารอเมริกันไปตั้งฐาน ทหารหลายๆคนในตอนนั้นเพิ่งเคยกิน Coke เป็นครั้งแรก
หลังสงคราม Coca-Cola ยังได้ประโยชน์จากโรงงานบรรจุขวดที่ขยายไปแล้วทั่วโลก ทำให้ Coca-Cola ขยายธุรกิจอย่างรวดเร็ว
โดยถ้านับจากปี 1940-1960 จำนวนประเทศที่มีโรงบรรจุขวดโตมากกว่า 2 เท่าตัว
แต่ที่สำคัญที่สุดคือ Coca-Cola ได้กลายเป็นสัญลักษณ์ของความเป็นอเมริกันไปแล้ว
หลังจากความสำเร็จ 70 ปีของ Coke บริษัท Coca-Cola ตัดสินใจเพิ่มสินค้าอย่าง Fanta ในปี 1950, Sprite ในปี 1961 และสินค้าอื่นๆ
Coca-Cola ได้ขยายธุรกิจไปทั่วโลกมากขึ้นไม่เว้นแม้กับประเทศที่ห่างไกลอย่างกัมพูชา, ปาราไกว หรือตุรกี
จากการทำการตลาดอย่างต่อเนื่องผู้คนทั่วโลกเริ่มสัมผัสได้ถึงความสนุก, มิตรภาพและช่วงเวลาที่ดีจากสินค้าของ Coca-Cola
ปี 1980 เป็นช่วงที่คนฮิตเรื่องการออกกำลังกาย, ฟิตเน็ต และสุขภาพ ทำให้ยักษ์ใหญ่อย่าง Coca-Cola ต้องทำการปรับตัว
ภายใต้การบริหารของ Roberto Goizueta และกลยุทธเสี่ยงอย่างชาญฉลาด เขาได้ออกสินค้าใหม่หลายอย่างแต่ไม่ประสบความสำเร็จมากนัก มีเพียงตัวเดียวที่ประสบความสำเร็จอย่างสูงจากการออกสินค้าใหม่ภายใต้แบรนด์ Coke เป็นครั้งแรกนั่นก็คือ Diet Coke ซึ่งกลายเป็นสินค้าที่ได้รับความนิยมสูงมากเป็นอันดับ 2 ของโลกรองจาก Coke
การทำการตลาดของ Coca-Cola คือหนึ่งในอาวุธสำคัญที่สุดของบริษัท ในปี 1993 โลกได้พบกว่า หมีขั้วโลก Coca-Cola เป็นครั้งแรก
Coca-Cola ยังเพิ่มสินค้าใหม่อย่าง Powerade และมีการซื้อธุรกิจใหม่ๆเข้ามาโดยโฟกัสไปที่เครื่องดื่มเท่านั้นซึ่งแตกต่างกับ Pepsi ที่ทำอาหารและขนมขบเคี้ยวด้วย
ในปี 1997 แม้ Coca-Cola ขายเครื่องดื่มได้ถึงวันละ 1 พันล้านขวดแล้วก็ตามบริษัทยังคงขยายตลาดได้อย่างต่อเนื่อง
ปัจจุบัน Coca-Cola ขายเครื่องดื่มวันละมากกว่า 2 พันล้านขวดทั่วโลก โดยมีสินค้าภายใต้บริษัทมากกว่า 400 แบรนด์กลายเป็นบริษัทที่ยิ่งใหญ่
แต่ถ้าเราย้อนคิดไปว่า Coca-Cola ยังอยู่ในมือของผู้คิดค้นคือ John Pemberton
Coca-Cola อาจจะเป็นแค่บริษัทเล็กๆที่ขายเครื่องดื่มอยู่ในร้านขายยาก็เป็นได้ ประเด็นของความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ไม่ได้อยู่ที่ตัวสินค้าแต่กลับอยู่ที่วิสัยทัศน์ของเจ้าของสินค้าเอง Pemberton เห็น Coca-Cola เป็นเครื่องดื่มในร้านขายยามูลค่า 2 ล้านบาทแต่ Woodruff เห็น Coca-Cola บรรจุขวดขายไปทั่วโลกมีมูลค่า 6 ล้านล้านบาท
สินค้าชนิดเดียว ธุรกิจแบบเดียวกลับมีมูลค่าไม่เท่ากันเพราะวิสัยทัศน์ที่แต่ละคนเห็นไม่เหมือนกันนั่นเอง ดังนั้นไหนๆถ้าจะคิดแล้วควรจะคิดให้ใหญ่ทำวิสัยทัศน์ให้ไกลไปเลยมั้ย? อ่านมาถึงตรงนี้แต่ละคนคงมีคำตอบอยู่ในใจแล้ว !
ติดตามเรื่องเล่าการลงทุนและกลยุทธธุรกิจมันส์ๆได้ที่ fb.com/buffettcode
Source:
http://www.coca-cola.co.uk/stories/our-story-1886-1892–the-beginning